Showing posts with label Southern. Show all posts
Showing posts with label Southern. Show all posts

Wednesday, February 11, 2015

Review : หาดทุ่งวัวแล่น [Thung-Wua-Laen Beach]

“หาดทุ่งวัวแล่น” (Thung-Wua-Laen)




วันนี้มารีวิวทริปสั้น ๆ ก่อนจะบอกว่าไปเที่ยวก็คงไม่ใช่ เพราะเป็นการนั่งรถกลับบ้านนอกไปเยี่ยมบ้าน เรียกว่าเป็น one day trip เริ่มต้นจากคิดถึงทะเลมาก (ก.ไก่ 10 ตัว) ก็เลยเลือกตัวเลือกที่สะดวกที่สุดคือ “หาดทุ่งวัวแล่น”



ขอเล่าแปป – หาดทุ่งวัวแล่นตั้งอยู่ในอำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร ห่างจากตัวเมืองประมาณ 20 กิโลเมตร เค้ามีตำนานเล่ากันมาด้วยนะว่าทำไมหาดนี้ถึงชื่อว่า “ทุ่งวัวแล่น”  คืองี้แก เมื่อก่อนอ่ะแถวนี้มันก็เป็นทุ่งหญ้าใช่มั้ย มันก็มีพวกสิงสาราสัตว์อาศัยอยู่ แล้ววันนึงก็มีนายพรานมาล่าสัตว์ไง นางก็ยิงวัวได้ตัวนึงแน่นิ่งไปเลยนะ นางก็กะว่าจะเดินเข้าไปหาวัวตัวนั้น ก็คงจะเข้าไปแร่เอากลับบ้านไรงี้แหละ แต่อยู่ดี ๆ เว้ย อีวัวตัวนี้มันวิ่งหนีเข้าทุ่งหญ้าไปเฉ้ย ...... เค้าเลยตั้งชื่อว่า “ทุ่งวัวแล่น” ด้วยประการะฉะนี้

" วัว - สัญลักษณ์ประจำหาด "



หาดทุ่งวัวแล่น มีอีกชื่อนึงแถวนี้เค้าเรียกกันคาบาน่า (Cabana Beach) เป็นทะเลฝั่งอ่าวไทย หาดทรายสีขาวละเอียดสวยมากแก ยังไม่ค่อยมีกลุ่มนายทุนเข้ามามากเท่าไหร่ เลยทำให้เราได้สัมผัสธรรมชาติกันแบบเต็มอกเต็มใจไปเลย ภาพพวกบานาน่าโบ๊ทหรือเตียงผ้าใบลืมไปได้เลยจ่ะ




" ทรายขาวละเอียด "


ส่วนมากจะมีแต่คนท้องถิ่นในชุมพรพาลูกพาหลานพาครอบครัวมานั่งกินอาหารเย็นกันริมทะเล นี่สมัยเด็กแม่ก็ขับรถมาพาทะเลทุกวันเลยนะ เล่นน้ำไป ป้อนข้าวไป หาดทรายที่นี่เป็นที่สาธารณะจะพกเตามาย่าง พาเสื่อมาปูกางนอน ไม่มีใครว่า ไม่มีใครเก็บตังค์ แต่ถ้าไปเที่ยวช่วงเที่ยง ๆ ทะเลจะสีสวยมากกกกก  น้ำก็ใสมากกกกก  มาดู ๆ จะอวด 





ตอนนี้เวลาประมาณบ่าย 2 โมง เดี๋ยวพาไปกินอาหารทะเลกันก่อนที่จะลงไปเล่นน้ำทะเลให้หนำใจ ทริปนี้ตัดสินใจจองห้องพักห้องเล็ก ๆ ริมหาดไว้อาบน้ำและเก็บสิ่งของมีค่า (ห้องละ 700/คืน) ทริปนี้เลือกที่ " วิว รีสอร์ท " (View Resort)  เลี้ยวซ้ายมายาก 3 แยกหน้าหาดประมาณ....ประมาณเท่าไหร่ไม่รู้  เอาเป็นว่าก็ขับตรงมาเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็เห็นชื่อร้านนั่นแหละ  555
นอกจากจะมีห้องพักให้บริการแล้ว ยังมีในส่วนของร้านอาหารด้วย ด้วยความอยากกินซีฟู้ดมากสั่งมาซะเต็มโต๊ะ แต่กินแค่ 2 คนกับแม่ ไปดูกันว่าเราสั่งอะไรมากินกันบ้าง


" หอยขาวอบ "
หอยสดเวอร์ ตอนแรกอยากกินหอยแครงแต่หมด ช่วงนี้ทะเลลมแรง ไม่ค่อยมีหอย


" ส้มตำปูม้าสด " ปูม้าสดและหวานมากแก (>,<)


" ปูนิ่มทอดกระเทียมพริกไทย "


" ปลาหมึกไข่ย่าง "


" ข้าวผัดปู "  ได้เนื้อปูมาเน้น ๆ 

ทั้งหมดทั้งปวงค่าเสียหายเพียง 600 บาทถ้วน !!! (รวมน้ำและน้ำแข็งแล้ว) คุ้มมาก ถูกมาก ที่สำคัญที่สุดคืออาหารสดมาก ร้านนี้อยาก recommend เลยหละเพราะทำรสชาติอร่อย น้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บถึงใจ นี่พิมพ์ไปน้ำลายยังไหลอยู่เลย อยากกลับไปกินอีกซักรอบ  

หลังจากที่อิ่มหนำสำราญกันแล้วเราก็ไปนอนหลับในห้องกันเถอะ เห้ย ! ไม่ใช่ ได้เวลาไปเปลี่ยนชุดเล่นน้ำทะเลกันแล้วแก  แดดเริ่มร่ม ๆ ลงมาเล็กน้อย ช่วงนี้ลมแรงหน่อย คลื่นสูง คงไม่ดีสำหรับชาวประมง แต่คือดีสำหรับเราไง 55555555  ไปเดินสำรวจหาดกันอีกนิด ให้เวลาลำไส้ได้ลำเลียงอาหารหน่อย 

" สาหร่ายและปะการัง "

" แมงกระพรุนตัวเล็ก ๆ ที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยตื้น "


" ผักบุ้งทะเล "







หลังจากเดินสำรวจหาดพอให้อาหารได้ลำเลียงลงกระเพาะ ตอนแรกก็กะว่าจะเล่นน้ำ แต่พอได้เอนกายลงหาดทรายนุ่ม ๆ เท่านั้นแหละแก  หลับ !





หลังจากแอบงีบไปนิดนึง คราวนี้แหละที่เราจะลงไปเล่นน้ำทะเลกันแล้ววววววววววววว  ที่ได้รูปมาเยอะไม่ใช่อะไร แม่กลัวดำจ่ะ นางก็เลยเดินถ่ายรูปไปเรื่อย นี่ก็กระโดดเล่นน้ำคนเดียว ย้ำ ! คนเดียว หัวเราะคนเดียว กรี๊ดอยู่คนเดียว สนุกอยู่คนเดียว 55555











นี่ก็คือทั้งหมดของทริปเล็ก ๆ กับแม่ 2 คน ณ หาดทุ่งวัวแล่น อิ่ม สนุก คุ้มค่า ที่สำคัญเหนื่อยมาก ด้วยความที่ไม่ได้เล่นน้ำทะเลมานานมาก เล่นโต้กับคลื่นไปซะเจ็บทั้งตัว จำได้ว่าคืนนั้นหลับตั้งแต่ 3 ทุ่ม หลับสนิทมากกกกกกกกกกกกก  

ลงท้ายหน่อย.....หาดชุมพรก็เป็นอีกที่ที่น่าเที่ยวนะ ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 400 กว่า ๆ กิโลเมตร การเดินทางมีหลายอย่างแล้วแต่แกจะสะดวก จะขับรถมา จะนั่งรถทัวร์ จะนั่งรถไฟ เดี๋ยวนี้มีบินตรงด้วยนะจ้ะ นอกจากนี้ยังมีดำน้ำหมู่เกาะชุมพร ปะการังอุดมสมบูรณ์มาก มีทัวร์เกาะโน่น นี่ นั่น เยอะแยะ เอาไว้ถ้ารอบหน้ามีโอกาสได้ไปจะแวะมาเล่าให้ฟัง ขอบคุณที่อ่านซะยาว

// ส วั ส ดี :-)





Wednesday, February 19, 2014

Review : Germany trip [February 2014]


นานแล้วไม่ได้อัพบล็อคเลยเนื่องจากก่อนหน้านี้ออฟฟิศบล้อคเว็บนี้ทำอิหยังก็ไม่รู้ เลยไปทำตาใสใส่พี่แผนกไอทีว่า บล้อคทำไมคะ หาข้อมูลไม่ค่อยได้เลย 5555+ ไหน ๆ เค้าก็ปลดล็อคให้ละวันนี้เลยจะแวะมารีวิวสถานที่ที่ไปเที่ยวมา รอบนี้ไม่ค่อยได้ออกไปนอกประเทศเหมือนรอบที่แล้ว (จะว่าไปรอบที่แล้วยังไม่เคยรีวิวเลย เดี๋ยวรอต่อจากอันนี้ละกัน 55+)

รอบนี้มีโอกาสได้ขับรถไปทางใต้ของเยอรมนี จุดประสงค์หลักคือแฟนอยากพาขึ้นเขาไปสัมผัสหิมะ เอิ่ม....ชั้นก็ไม่ได้อยากเห็นหิมะขนาดนั้น ขับรถจากบ้านลงใต้ไปใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง เรียกว่านั่งกันเมื่อยก้นเลยทีเดียว แต่วิวและบรรยากาศเรียกได้ว่าคุ้มค่าจริง ๆ เอ้า !!! ไปชมกันเลย

เมืองที่ไปน่าจะชื่อ Grainau นะ ขับผ่าน Garmisch มานิดนึงเข้ามาพักที่หมู่บ้านที่ดูไม่ใหญ่มากนัก บ้านส่วนมากสไตล์พื้นเมืองๆ ดั้งเดิมแบบบาวาเรียสวยมากๆ รีสอร์ที่พักชื่อ "Bayern Resort" เหมือนเป็นอพาร์ทเม้นต์ให้พักมากกว่า มีห้องครัวและเครื่องทำครัวให้เพรียบพร้อม ชอบห้องมากๆ น่ารักดี


รูปนี้คือห้องนั่งเล่น แนวหลังคาเป็นสโล้บลงมาน่ารักดี


ตรงข้ามกับห้องนั่งเล่นก็จะเป็นเตียงนอน


วิวจากระเบียงห้องสวยมาก มองไปเห็น zugspitze ด้วย อยากขึ้นแล้วแต่วันนี้เย็นเกินไปละ


วันรุ่งขึ้น ..... วันนี้หละที่ชั้นจะขึ้นไปบนยอดเขานั้น 555+ อากาศหนาว ๆ และหิมะเย็น ๆ รอชั้นอยู่สินะ  ตื่นกันแต่เช้ามาทำอาหารเช้าให้คุณชาย ทำเองนะเนี่ย จัดเอง สวย 5555555555


หลังจากนั้นเราก็ขับรถออกไปสถานีรถไฟเพื่อที่จะขึ้นเขา ข้าง ๆ มีสถานี cable car ด้วย แต่มันขึ้นเร็วดูไม่ค่อยเอนจอยบรรยากาศ ส่วนมากเป็นพวกคนที่จะขึ้นไปเล่นสกีจะขึ้น cable car ไปมากกว่า  ซื้อตั๋วคนละประมาณ 40 กว่ายูโร สามารถใช้บริการ cable car ข้างบนได้ฟรีหมดเลยและเป็นตั๋วรถไฟขึ้น-ลง  


รถไฟที่จะพาเราไต่เขาขึ้นไป 

ขึ้นมาที่ระดับความสูงแรกอากาศอยู่ที่ -7 องศา หายใจสบายปอดมากๆ อากาศดี ไม่ได้หนาวเว่อร์อยากที่มโนไว้เพราะว่าไม่ค่อยมีลม วิวสวยใช่มั้ยล่าาาาาาาาาาา  






จินตนาการว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงเอลซ่าเห็น Frozen 5555+

ต่อจากนั้นเราขึ้น cable car มาที่ระดับความสูงท้อปสุดของ zugspitze  ยิ่งเห็นวิวชัดมาก ๆ อากาศบนจุดนี้อยู่ที่ -11 องศา  ไม่พูดพร่ำทำเพลงไปดูรูปกัน





สวยมากๆ เขาอะไรต่อมิอะไรก็ไม่รู้นะ มีกล้องให้ดูมีชื่อเขาบอก แต่ลืมหมดแล้ว 555


จุดนี้คือ Top of Germany แต่หน้าหนาวขึ้นไปไม่ได้เค้าปิด เพราะอันตรายเกินไป แต่หน้าร้อนก็จะมีนักท่องเที่ยวปีนบันไดลิง ดั้นด้นกันขึ้นไป ณ จุดนี้ ดูเสียวสุดๆ

หมดแล้วรีวิวโดยรวม ๆ ยังมีรูปอีกเยอะมากแต่เดี๋ยวจะเบื่อซะก่อนเพราะมีแต่หน้าเรา 555 เช้าวันต่อมาเรามีแพลนจะไปที่ Partnachklamm กัน ก็ตื่นมาเตรียมอาหารเช้าเหมือนอย่างเคย และใช้เวลาขับรถไปที่ Garmisch ซักประมาณ 30 นาทีเองมั้ง ใกล้ ๆ กับหมู่บ้านโอลิมปิค 

Partnachklamm มันจะเป็นช่องเขาที่มีน้ำตกลงมา ซึ่งก็มีเป็นน้ำลำธารเล็ก ๆ ที่ไหลมาจากบนเขา เดาว่าน่าจะเป็นที่หิมะละลายลงมาด้วย แล้วก็ตามข้างๆ ซอกๆ เขาน้ำที่ยังแข็งเป็นน้ำแข็งก็ยังติดอยู่ เออ สวยไปอีกแบบดีนะ ค่าตั๋วเข้าคนละ 5 ยูโรมั้งถ้าจำไม่ผิด  เดินเลาะ ๆ ข้างเขาไปเรื่อย ๆ แล้วก็เดินกลับมาทางเดิมนี่หละ





รูปนี้ที่ Partnachklamm เรานั่ง cable car ขึ้นไปบนยอดเขา cable car เก่าและน่ากลัวมากแทบร้องอ่ะ ขาลงเลยบอกแฟนว่า เดินลงเท่านั้น !!!!!

อีกที่ที่เราได้มีโอกาสไปเที่ยวก่อนบินกลับมาไทยคือ Wartburg Castle เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์อีกที่หนึ่งของเยอรมนี เป็นที่ที่ Martin Luther แปล Bible เป็นภาษาเยอรมัน แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเนื่องจากลมแรงและฝนตก ค่าตั๋ว 9 ยูโรและจะมีไกด์พาเราชมปราสาทด้านในพร้อมอธิบายเรื่องราวให้ฟัง ส่วนตัวเราคิดว่า wartburg น่าเที่ยวช่วงซัมเมอร์มากกว่าเพราะจะมีดองกี้ให้ขี่และต้นไม้เขียวขจี วิวสวยกว่าเยอะเดี๋ยวจะหารูปจาก google มาแปะให้ดูละกันนะ



รูปภายนอกของปราสาท ดูขรึม ๆ น่ากลัว ๆ นิด ๆ นะสำหรับเรา



ถ้าจำไม่ผิดห้องนี้จะเป็นห้องนั่งเล่นของอลิซาเบธ มีเตาผิงใหญ่ที่มุมห้อง


ห้องนี้เหมือนคล้าย ๆ ห้องการแสดงโอเปร่า อะไรเถือก ๆ นั้น สวยดี เข้าไปนั่งเค้าเปิดเพลงให้ฟัง


ห้องทำงานของ Martin Luther ที่นั่งแปล Bible 


โบสถ์ที่อยู่ในปราสาท


คนนี้เป็นไกด์ที่คอยอธิบายเรื่องราวประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ให้เราฟัง นางน่ารักมาก อธิบายดีเป็นภาษาอังกฤษ และไม่น่าเบื่อเลย


หมดแล้วที่ ๆ ไปเที่ยวใหม่ ๆ สำหรับทริปรอบนี้ ขอบคุณคุณแฟนผู้มีอุปการะคุณสำหรับทริปนี้ สุดท้ายนี้ขอลงรูปคู่สวย ๆ เป็นการส่งท้าย 5555  ตอนนี้กลับมาไทยแล้วซึมเศร้าคิดถึงนางจัง T_T




จุดนี้เค้ามีกล้องให้กดถ่ายอัตโนมัติ แล้วนี่ก็ไม่นึกว่านางคนนั้นจะติดมาในรูปชั้นด้วย กริ้วมาก ที่สำคัญกดถ่ายมารอบเดียวจ้า น้ำตาจะไหล เอานางออกไปที T T