Saturday, June 21, 2014

หลงทางครั้งแรกในต่างแดน

จากที่เคยเขียนแต่รีวิวที่เที่ยวต่าง ๆ นานา วันนี้เบื่อ ๆ นั่งนึกไปนึกมาก็นึกไปถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ประสบการณ์การหลงทางครั้งแรกในต่างประเทศ สาเหตุมาจากความเซ่อซ่าส่วนตัวล้วน ๆ

ก่อนวันบินกลับไทย . . . ช่วงเช้า
เรากับแฟนขับรถจากบ้านไป Erfurt เพื่อไปจองตั๋วรถไฟ ICE ไปแอร์พอต เพราะวันที่เราต้องบินกลับนางลางานไว้แค่ครึ่งวันเช้า ครึ่งบ่ายนางติดประชุม ก็เลยเป็นที่มาว่าทำไมเราต้องนั่งรถไฟไปเอง จริง ๆ มันก็สะดวกด้วยนะจากบ้านไป Erfurt แค่ประมาณ 20 นาทีเอง ถ้าต้องขับรถไปแฟรงเฟิร์ตก็ประมาณ 4 ชั่วโมงแหนะ อ่ะ! ถึงตอนจองตัวนางก็จองตัวแบบจองที่นั่งให้ด้วยนะ (ICE ถ้าตีตั๋วราคาปกติจะไม่มีการระบุที่นั่งให้ ถ้าจะจองที่นั่งหากเรากลัวว่าจะไม่มีที่นั่งก็ต้องเสียค่าจองเพิ่ม)  ด้วยความที่นางรู้ในความเซ่อซ่าของแฟนและเป็นห่วงกลัวคนจะเยอะเดี๋ยวแฟนไม่ได้นั่ง จองตั๋วเสร็จสรรพก็ขับรถกลับบ้าน

ก่อนวันบินกลับไทย . . . ช่วงเย็น
มื้อเย็นป๊ากับม๊าก็ขับรถมารับพาไปกินข้าวนอกบ้านเป็นมื้อเลี้ยงส่ง นั่ง ๆ กินกันอยู่ป๊าก็ถามแหละว่าพรุ่งนี้กลับยังไง แฟนก็บอกจองตั๋วรถไฟไว้แล้ว ป๊าก็บ่น ๆ ใส่นางนะที่ไม่ยอมไปส่งที่แอร์พอต แล้วก็หันกลับมาถามนี่ว่า โอเคมั้ย กลับได้มั้ย .... นี่ก็บอกว่า ได้ค่ะป๊าไม่มีปัญหา สบายมาก ทุกคนต่างก็เป็นห่วงในความเซ่อซ่าของนี่มาก นี่ก็ยังมั่นใจอยู่

ไปขึ้นรถไฟกันเถอะ . . .
ขับรถออกจากบ้านประมาณ 8 โมงครึ่งเพื่อไปขึ้นรถไฟ แฟนก็ย้ำนักย้ำหนาระหว่างรอรถนะ "เนี่ย รถไฟจอดปลายทางที่แอร์พอตเลยนะ อย่าลงที่สถานีไหนเลยนะ มันจะผ่านประมาณ 3-4 สถานีก่อนนะ" บลา บลา บลา นางก็ยืนบ่น ๆ ของนางไป นี่ก็ด้วยความมั่นใจ โหยยย เธอ เออน่า รู้น่า ไม่หลงหรอก นี่! เป็นไงมั่นใจซะ ในใจก็นึกรำคาญนางบ่นทำไมนักหนา โอ่ยยย นี่โตแล้ว .......

Hallo! ICE . . .
พอรถไฟมาแฟนก็อดไม่ได้ที่จะย้ำใส่อีกรอบว่า ไปลงปลายทางนะ ! ถึงแล้วโทรบอกด้วย ! โบกมือลาด้วยหน้ายิ้ม ๆ พอเดินขึ้นไปบนรถไฟก็เอากระเป๋าวางบนชั้น แล้วก็เดินไปหาที่นั่งที่จองไว้ อ่าว .... มีลุงคนนึงเค้านั่งที่ชั้นอยู่นี่หว่า ไม่กล้าบอกอีก สรุปก็เลยนั่งตรงข้ามกับลุงไปนั่นหละ

ระหว่างทางก็นั่งชมวิวไปเนอะ รถก็จอดอยู่ประมาณ 3 สถานีมั้งแล้วก็นั่งหลับไป มารู้สึกตัวอีกทีเพราะได้ยินเสียงประกาศว่า แฟรงค์เฟิร์ต แฟรงค์เฟิร์ต  นี่ก็นึกในใจ เห้ย ! ถึงแล้วนี่หว่าก็ไม่เห็นจะยากเลยไอ่การนั่งรถไฟมาคนเดียวเนี่ย เตรียมพร้อมที่จะลง

Where am I ? . . .
เดินถือกระเป๋าลงมาจากรถไฟ มีคำถามมากมายเกิดขึ้นในหัวทันที
- เอ้ะ! ทำไมมันเป็นชานชาลาหละ . . . # อ๋อ สงสัยต้องเดินลงไปข้างล่าง
- เอ้ะ! ทำไมรถไฟวิ่งไปต่อวะ . . . # อ๋อ คงไปกลับหัวละมั้ง
- เอ้ะ! ทำไมคนลงไม่หมดรถวะ . . . # ตอนนี้เริ่มกลัว ๆ ละ

 สถานีที่ลงผิด แฮ่ ๆ 


ซักพักเหลือบไปเห็นผู้ชายคนนึงพร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เห้ย! คนนี้ต้องไปแอร์พอตแน่ ๆ เดินตามเลยจ้างานนี้ เดินลงมาจากชานชาลาปุ้ป อ้าว! อีผู้ชายคนนั้นเดินขึ้นอีกชานชาลานึง สรุปว่านางต่อรถไฟ ตายละงานนี้ คิดในใจนี่ชั้นอยู่ที่ไหนวะ ยืนเคว้งคว้างอยู่ตรงกลางทางเดินเลยตัดสินใจเดินออกไปทางขวา อ่าว! ถนน อ่าว! ป้ายรถเมล์ ไหนแอร์พอตวะ ???????

ไม่เป็นไรอาจจะเดินมาผิดทาง ก็เลยเดินไปทางออกอีกฝั่ง อ่าว! ถนน ไหนแอร์พอตวะ ???? ตอนนั้นนึกในใจ ซวยแล้ว ลงผิดสถานีแน่ ๆ เห็นตู้ Information เลยเดินไปถามเค้าว่า ไปแอร์พอตยังไงคะ นางก็จิ้ม ๆ ที่คอมแปปนึงแล้วหันมาบอกว่า เดี๋ยวไปรอรถเมล์สาย 61 นะ  ห้ะ !!! ขึ้นรถเมล์หรอ !!!!!

เดินลากกระเป๋าด้อกแด้กไปรอรถเมล์ที่ป้าย โชคดีอย่างนึงที่ระบบขนส่งสาธารณะที่นี่เค้าดี มีป้ายบอกชัดเจนว่ารถสายไหน ขึ้นฝั่งไหน จะมาภายในกี่นาที นี่ก็ไปยืนรอที่ป้ายรถเมล์ใจก็ลังเลว่า เอ...่จะขึ้นรถไปแอร์พอตเลยทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือจะโทรบอกแฟนดีว่าหลงทางอยู่

Here it is Frankfurt südbahnhof
สรุป...ด้วยความกลัวว่าจะหลงไปยิ่งกว่านี้ก็เลยตัดสินใจโทรหาแฟนก่อนจะขึ้นรถเมล์ เพราะตอนนั้นประมาณเที่ยง ไฟลท์ บ่าย 3 โมงกว่า โทรไป ตู้ดดดดด .... แฟนรับทักทายเสียงใสเลยนะ "ถึงแล้วใช่มั้ย" ได้แต่อ้ำอึ้งและบอกว่า " เอ่อ ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน - - "  เท่านั้นหละจ้า โดนนางบ่นใส่เป็นหางว่าวเลยจ้า

นี่ก็ยอมรับผิดแต่โดยดีบอกว่า เนี่ยกำลังรอรถเมล์อยู่จะไปแอร์พอตแล้วไปถาม Information มา นางก็ไม่ยอมบอกว่าให้เดินไปหา Information อีกรอบเดี๋ยวจะคุยเอง สรุปว่าไอ่ที่เราลงมาเนี่ยมันคือสถานีแฟรงค์เฟิร์ตใต้ แต่สถานีแอร์พอตคือสถานีต่อไป เราลงก่อนนั่นเอง แหม่ . . . ก็ได้ยินอะไรแฟรงค์เฟิร์ต ๆ ก็นึกว่ามันใช่นี่หว่า

ด้านหน้าสถานี ตรงข้ามคือป้ายรถเมล์ที่มายืนรอ

Bus no.61 . . .
หลังจากฟังแฟนบ่นใส่หูเสร็จก็ไปยืนรอรถเมล์ที่ป้าย ระหว่างที่รอก็เหลือบไปเห็นตู้ซื้อตั๋วรถเมล์อยู่หลังป้าย ตู้ใหญ่มากไม่เหมือนกับตู้ที่เคยซื้อที่เดรสเดน พอดีมีป้าคนนึงแกเดินมาซื้อพอดีก็เลยเดินเข้าไปถามแกว่า "ตู้ซื้อตั๋วรถเมล์ใช่มั้ยคะ?" เดชะบุญ แกพูดภาษาอังกฤษได้ แกเลยบอกว่า "ใช่จ้ะ แต่หนูไปซื้อบนรถกับคนขับก็ได้นะ" พร้อมยิ้มหวานให้ เหยยยย...นี่ก็ใจชื้นขึ้นมาอีกนิด เดี๋ยวไปซื้อบนรถละกันวะ

พอรถเมล์มาจอดที่ป้าย (ตามเวลาเป้ะ) เดชะบุญอีกรอบ ! คุณป้าที่คุยด้วยเมื่อกี้แกก็ขึ้นรถเมล์คันนี้เหมือนกัน แกก็เดินเข้ามาสะกิด พร้อมชี้ไปที่คนขับ " หนู ๆ ไปซื้อตรงนั้นเลยจ้ะ" แกก็ยิ้มให้อีกรอบ โอ้ยยย ป้าน่ารักมาก ณ จุดนี้

Is it free of charge ?
เรื่องเด็ดมันก็เกิดตรงนี้อีกรอบเนี่ยหละ . . . เดินไปหาคนขับรถเมล์ที่หน้าแม่งบูดบึ้งมาก! " ไปแอร์พอตเท่าไหร่คะ" นางก็จิ้ม ๆ เครื่องคิดเงินราคามันก็โชว์ขึ้นมาที่หน้าจอ รู้สึกมันจะราว ๆ 1 ยูโรกว่า ๆ อ่ะ จำไม่ได้กว่ากี่เซนต์ อ่ะ ! คราวนี้ก็จำได้ว่าเห้ยมีเหรียญ ๆ อยู่ก็บอกเค้าว่า " แปปนึงค่ะๆ "  ควักเหรียญออกมาจากเสื้อโค้ตยืนนับ ๆ อ่าวเวร! มีอยู่ประมาณ 75 เซนต์ !!!!!!!!!!!!

คนขับหันมามองหน้าอีกครั้ง นี่ก็บอกนางไปอีก " แปปนึงค่ะๆ " คือในตอนนั้นรถเมล์ก็ออกจากป้ายไปแล้วด้วยนะ นี่ก็นั่งอยู่ที่ใกล้ ๆ คนขับ เปิดกระเป๋าตังค์ขึ้นมาพยายามหาเหรียญแล้ว ไม่มีแล้วอ่ะแก๊ ทำไงดีเอาละหวะ แบงค์เดียวที่มีนี่หละ ยื่นให้คนขับ " 50 ยูโร "  5555555555555555  คนขับทำหน้ารำคาญใส่มากอ่ะตอนนั้น นางก็บอก " ไม่มีทอน ๆ "  แล้วก็ทำมือแบบปัด ๆ ใส่อ่ะ  นี่ก็งง หาาา!!! มึงไล่กูลงหรือบอกว่าไม่เป็นไร ๆ วะ ..................  สรุป  เดินไปนั่งจ้า คิดเอาเองว่ามันให้นั่งฟรี  555555555555

นี่คือโฉมหน้ารถเมล์ฟรีของชั้น 5555555555

Finally . . . 
ในที่สุดก็มาถึงแอร์พอตโดยสวัสดิภาพ ตอนนั้นหิวมากนะแต่ไม่มีอารมณ์เดินหาของกิน มันอารมณ์แบบว่า " กูขอเห็นเกตก่อน ไม่งั้นกูคงกินไม่ลงแน่ ๆ "  555555555555  ว่าแล้วก็เช็คอินเดินไปนั่งหน้าเกตจ้าพร้อมกับส่งแมสเสจอวดแฟนว่า อยู่หน้าเกตแล้วจ้า แหม่ ช่างน่าภูมิใจอะไรเช่นนี้ หลังจากนั้นเลยใช้ 50 ยูโรนั่นหละหมดไปกับช็อคโกแลตที่แอร์พอต

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า . . . อย่าเดินตามคนที่เราคิดว่ามันต้องไปที่เดียวกับเรา...เพราะมันไม่ใช่ 555+

//  ส วั ส ดี  :-)

Sunday, May 25, 2014

Review : Koh chang, Trat

วันนี้เอาใจคนรักทะเลเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาไม่ว่าจะ instagram เอย facebook เลย นี่หนาแน่นไปด้วยรูปทะเลมากกกกกก  นี่ก็ได้แต่นั่งรูด ๆ ดูแล้วอิจฉาไปวัน ๆ .... ก็เลยไปงัดเอารูปเก่า ๆ มาแก้กระหายนะจ้ะ 55

เกาะช้าง จังหวัดตราด บางคนก็บอกไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก แต่เราว่าไกลมากแถมด้วยการจราจรคับคั่งระหว่างรอขึ้นเรือ แต่อย่างไรก็ดีที่นี่เป็นหนึ่งใน favorite เกาะของเรา และที่สำคัญมันก็ต้องมีรีสอร์ทดี ๆ มาให้ดูกันใช่มั้ยล่าาาาาาาาาา

Koh chang paradise resort : ตั้งอยู่บริเวณหาดคลองพร้าว (http://www.kohchangparadise.com/)
ไปกี่ครั้งก็เลือกที่จะพักที่นี่ทุกครั้งเพราะติดกับชายหาดที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว คนไม่พลุกพล่านมากนัก เหมาะสำหรับคนที่อยากไปพักผ่อนจริง ๆ แต่สำหรับคนที่ชอบพักสถานที่ที่ใกล้ที่ตึ้ด ๆ ละก็ แนะนำหาดทรายขาวนะจ้ะ

วันนี้ก็ขอเลือกห้องพักแบบ Pool villa มารีวิวให้ดูกัน ในห้องก็จะมีโซนเตียงนอน โซนนั่งเล่นดูทีวี สระว่ายน้ำส่วนตัวหน้าห้อง อ่างจากุดชี่


การบริการประทับใจมากจำได้ว่าวันนึงแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดจัดห้องให้วันละ 2 ครั้งเลยมั้ง คงเพราะว่าอยู่ติดทะเลด้วยแหละ เราออกไปเดินออกไปเล่นน้ำ ห้องมันก็จะมีทรายติดเข้ามาตลอดเวลา แต่ละวันเดินกลับมาเค้าก็มีบริการเสิร์ฟผลไม้ใส่ไว้ในตระกร้าสานมาวางไว้หน้าห้อง 

ครั้งแรกที่ไปพักห้องนี้แทบจะบอกไม่ได้เลยว่าอาหารเช้าเป็นยังไง อร่อยมั้ย เพราะตื่นมาทีไรนี่เกือบเที่ยงตลอด 55555  จำได้ว่าเพิ่งได้มาลองกินอาหารเช้ารีสอร์ทนี้ตอนไปพักครั้งที่ 2 ซึ่งก็เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ออกแนวเป็นอาหารเช้าแนว western ซะส่วนใหญ่ มีอาหารไทยบ้างนิดหน่อย 

อาหารมื้ออื่น ๆ ที่เราสั่งกินมื้อบ่าย ๆ เวลาหิวก็รสชาติปานกลาง แต่ที่ปลื้มมากและสั่งบ่อยมาก คือ Margarita จ้ะ 5555555555  โอ่ยยย เที่ยงก็สั่ง เย็นก็สั่ง มืดก็สั่ง  คือมันดีอ่ะ  



มาดูบรรยากาศหน้าห้องพักบ้าง เดินออกมาก็ถึงชายหาดกันเลยทีเดียว ฝั่งคลองพร้าวจะเป็นฝั่งที่ได้ดูวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยและชัดมาก


ที่รีสอร์ทมีบริการรถมอเตอร์ไซต์ให้เช่าวันละ 200 บาท ซึ่งเราแนะนำมากสำหรับคนที่ไปเที่ยวที่เกาะช้าง ถนนบนเกาะราดยางอย่างดีแต่บางพื้นที่ก็เป็นทางเขาชัน ต้องใช้ความชำนาญในการขับมากหน่อยนะ แต่แอบกระซิบว่าทางดีกว่าเกาะเสม็ด 80 ล้านเท่า 5555555555555

ในเวลากลางวันส่วนมากคนจะนิยมขับไปเที่ยวหมู่บ้านชาวประมงที่ชื่อว่า "บางเบ้า" จะมีหลากหลายร้านอาหารทะเลให้นั่งกิน มีของขายตามข้างทางให้เดินเลือกซื้อ  


อีกร้านเด็ดสำหรับดินเนอร์สุดโรแมนติกกับวิวพระอาทิตย์ตกที่เลอค่ามาก วิว landscape สุด ๆ  ที่ร้าน Invito Ai Cibo Italian & Thai Restaurant ร้านอยู่บริเวณหาดทรายขาว ถ้าขับมุ่งหน้าไปท่าเรือเฟอร์รี่ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ ร้านนี้จะตั้งอยู่บนเขากึ่ง ๆ หน้าผาริมทะเลให้ชมวิว 180 องศาวิวทะเลกับวิวพระอาทิตย์ตกสวย ๆ กันเลย รูปกากหน่อยนะไปเมื่อสมัย 3 ปีที่แล้วยังใช้โทรศัพท์กาก ๆ อยู่เลย 55555 ของแบบนี้ต้องไปดูกับตานะ คือดีจริง ๆ วิวฟินมาก


จริง ๆ บนเกาะช้างยังมีกิจกรรมหลายอย่างให้ทำมากมาย เช่น ดำน้ำ พายเรือแคนู เป็นต้น ไปที่นี่อย่างน้อยควรแพลนไปซัก 5 วันจะจุใจมาก แต่ก็หลีกเลี่ยงช่วยวันหยุดยาวก็จะดีเพราะท่าเรือเฟอร์รี่เป็นอะไรที่แออัดมาก บางรอบนี่รถติดจอดรอขึ้นเรือ 3 ชั่วโมงก็เคยมาแล้ว แต่ก็ยังอยากไปอีกนะ

อ่ะ ! หมดแล้วกับขุดภาพเก่า ๆ เมื่อ 3 ปีที่แล้วมารีวิว รอบหน้าวางแผนจะเขียนรีวิว เกาะลันตา กระบี่ ยังไงก็รอชมกันนะจ้ะ .... บ๊ายยยยย


Saturday, April 12, 2014

Review : Koh Kred.


Koh Kred is a small island located in Chao Phraya River in the province of Nonthaburi, and is some 2 km. long and 1 km wide. It has seven main villages, the largest and most populous being Ban Mon.
(Cr.Wikipedia)

If you want to drive, you can follow the sign to Chaeng-Wat-Ta-Na road, also can take a van (around an hour) from the Victory Monument or Chatuchak Market (JJ Market) for 25 baht/person.

Koh kred is opens on the weekend during in the morning until 6 pm. ( I recommend you to be there around 10 am.)  At koh kred, you can rent the bicycle for 20 baht to ride around the island. On the way there are many local shops and restaurants you can stop by.



First of all, I recommend you to visit the temples.



After I enjoyed bicycling and made temples tour. I found one local food " Khao-Chae " which means "rice soaked in water" which can help me to feel fresh and cool down. MUST TRY ! =)

Are you looking for something sweet after lunch? Let me show you what else you MUST TRY at koh kred. If you have heard about Thai dessert you come to the right place. At koh kred is the one of the famous place to make desserts and they make it fresh for you. There are many kinds of dessert but the main ingredient for Thai dessert is " Yolk ", you can see from the color there are always in yellow color.

Koh kred is the one of my favorite place because it is not far from my house and I can do a lot of things here. I have been here more than 3 times but believe it or not, there is one place I have never got inside. I don't know why I didn't walk and take a look but not this time.

This is a .......


































































All i can say was just " Wow ", They were so amazing to made those things and it was very beautiful products. A woman came to me and said " You can try if you want " Of course i said " Yes!"ํ
You just need to pay for the soil (50-60 baht) and they will teach you how to do. (There is no any service charge) Let's see my work ! It was not too bad right ! Haha


















If you love the local tradition way I recommend you to visit Koh kred once and you will never forget. =) For this post I will say goodbye with a cutie dog from koh kred. hehe  Thank you for visiting my blog and see you again!




Thursday, April 10, 2014

Review : Here is Amphawa.

If you are looking some place to relax, that is not too far from Bangkok, Amphawa is a very good choice. Amphawa is a district of Samutsongkram province located in the west of Thailand. One of the famous places in Amphawa is the floating market where you can see the "canal-side" way life - the real traditional one.




Here there are many activities you can spend time doing on either a sleep-over or a one day trip. For example during the day you can take a boat to visit temples (boat ride: 50 baht/person), then in the evening take walk through the floating market which is the best choice because it is not too hot and it is open until late night. Around 7 p.m. it is a good time to take a boat (just 60 baht/person) to see the fireflies.

My friend and I had planed to go Amphawa on long weekend, unfortunately all hotels and resorts near the canal were fully booked, so we decided to drive there for one day trip and also packed our bag in case we got lucky found an available place. Haha!

We left Bangkok around noon and arrived at Amphawa around 3 pm. because of the traffic but actually Amphawa is just around 63 km. from Bangkok. You can also take a van from Victory monument to Amphawa, it's very inexpensive! Anyway we got there too early to go to floating market then we drove to the temples nearby.


Temple#1."วัดภุมรินทร์กุฎีทอง (bhum-ma-rin-ku-dee-thong)"



At the bhum-ma-rin-ku-dee-thong temple there is a old traditional house called " Reun-Thai-Ku-Dee-Thong" 




The puppet museum in  " Reun-Thai-Ku-Dee-Thong" 


Temple#2. "วัดบางกุ้ง (ฺbang-kung)"
This is the one of the famous temple, you can see where the tree grew and covered the Buddhist sanctuary which helped it not get burned down by an enemy.


One Buddha inside named "Nil-Ma-Nee"




So we visited only 2 temples because we were very hungry ..... haha  Anyway, on our way back to floating market we saw the litchi (Lychee) garden and we couldn't just drive past. haha!

The farmer said this year there are a lot of litchi (Lychee) because at the beginning of year the weather was very cold. They put a table in front of the garden and sell it right there just 90 baht/kilo, you can take a walk in the garden and just pick the fresh ones to eat....ahhhh imagine how good it tastes....fresh food from the trees.




 Finally!!!!! We were at the floating market !!!!!!  All different kinds of food was waiting for us (after we got the nice car park for 60 baht and closed to floating market). First thing we plan to eat is SEAFOOD!! YEAH!!  i love seafood so much. (>_<)


Right! We order seafood from that boat and sat down on the on a small chair on the side walk. hahaha 
We also order squid but i guess we were too hungry to forgot to took a photo.


I am sure someone wants to know how come the canal has seafood. It's because Amphawa is the place where mixes between the water from the sea and the river. That's why! you can get the fresh seafood here.






The question is " Are we full? " No..not at all... We took a walk and found the Thai curry with rice noodle. Oh again that we couldn't just walk away so we sat down and had some. Hey, girls can eat much more than you can imagine. hahaha

This is " Green curry with rice noodle " 
You can order in Thai as "Ka-Nom-Cheen-Kang-Keaw-Wan"


Now we were really full. Let me show you around how was it looks like. We went to Amphawa on long holiday so it was pretty crowded of people.

Do you like massage ? Let's try Massage cruise. =)






All pictures here are just a small part of Amphawa that I show you but it has much more than this to do on your holiday. So i recommend you guys to visit here i bet you will love it!! =)


Thank you for visiting my blog. So please feel free to correct my english also can ask me to get more information of Amphawa ! =)